Cobot (Collaborative Robot) หรือ หุ่นยนต์ร่วมงาน เป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย ต่างจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วไปที่ต้องมีรั้วกั้นหรืออยู่ในพื้นที่แยกออกจากคน
💡 คุณสมบัติของ Collaborative Robot
✅ ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ – มีเซนเซอร์ป้องกันการชนกัน ถ้าสัมผัสคนจะหยุดทันที
✅ ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่าย – ไม่ต้องเขียนโค้ดซับซ้อน สามารถตั้งค่าผ่านการลากและวาง (Drag & Drop) หรือสอนด้วยมือ
✅ ใช้งานในพื้นที่จำกัดได้ – มีขนาดเล็กและเคลื่อนย้ายง่าย
✅ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน – ลดภาระงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ และช่วยให้คนทำงานที่ซับซ้อนขึ้น
🔧 Collaborative Robot ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
🤖 อุตสาหกรรมการผลิต – หยิบจับชิ้นส่วน ประกอบชิ้นงาน
📦 โลจิสติกส์ – บรรจุสินค้า หยิบสินค้าจากชั้นวาง
⚕️ การแพทย์ – ช่วยในการผ่าตัด ส่งยาให้คนไข้
🍰 อาหารและเครื่องดื่ม – ช่วยทำกาแฟ ประกอบอาหาร
การแตกต่างระหว่าง Cobot (Collaborative Robot) และ Robot (หุ่นยนต์ทั่วไป) มีหลายจุดที่สำคัญ
1. การทำงานร่วมกับมนุษย์
- Collaborative Robot: ออกแบบมาให้สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องมีรั้วกั้น พวกมันมักมีเซนเซอร์ที่ช่วยให้หยุดหากมีการสัมผัสกับคน
- Robot: ส่วนใหญ่จะเป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานในพื้นที่แยกจากมนุษย์ มีรั้วกั้นหรือกำแพงกั้นระหว่างหุ่นยนต์และคนทำงานเพื่อป้องกันอันตราย
2. การปรับเปลี่ยนการใช้งาน
- Collaborative Robot: ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้โค้ดซับซ้อน บางครั้งสามารถตั้งค่าโดยการลากและวาง หรือสอนการทำงานด้วยมือ
- Robot: อาจต้องใช้การเขียนโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อให้ทำงานได้ตามต้องการ
3. ขนาดและความยืดหยุ่น
- Collaborative Robot: มักจะมีขนาดเล็กและยืดหยุ่น สามารถใช้งานในพื้นที่ที่จำกัด และสามารถย้ายไปใช้งานที่อื่นได้ง่าย
- Robot: มักจะมีขนาดใหญ่และต้องการพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตที่ต้องการความแม่นยำและความเร็วสูง
4. ความปลอดภัย
- Collaborative Robot: ถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยในการทำงานร่วมกับมนุษย์ ด้วยฟีเจอร์เช่น เซนเซอร์ป้องกันการชน และการหยุดทำงานทันทีหากสัมผัสกับมนุษย์
- Robot: เนื่องจากทำงานในพื้นที่แยกจากมนุษย์ มักจะมีมาตรการความปลอดภัยที่แตกต่าง เช่น การใช้รั้วหรือพื้นที่กันชนระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์
5. ต้นทุน
- Collaborative Robot: โดยทั่วไปมีราคาที่ค่อนข้างต่ำกว่า robot ที่ใช้ในอุตสาหกรรมหนัก เพราะใช้เทคโนโลยีที่ง่ายกว่า
- Robot: อาจมีต้นทุนสูงกว่าเนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและมีการติดตั้งระบบการควบคุมที่เฉพาะเจาะจง
6. การใช้งาน
- Collaborative Robot: มักใช้ในงานที่ต้องทำร่วมกับมนุษย์ เช่น การประกอบชิ้นส่วน, การบรรจุสินค้า, หรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการความยืดหยุ่น
- Robot: มักใช้ในงานที่มีการทำซ้ำ ๆ เช่น การเชื่อม การประกอบชิ้นส่วนที่ไม่ต้องการการปรับตัวมากนัก
สรุปได้ว่า Cobot จะเน้นการทำงานร่วมกับมนุษย์และความยืดหยุ่น ในขณะที่ Robot จะเน้นการทำงานในพื้นที่ที่มีการควบคุมและไม่จำเป็นต้องทำงานร่วมกับมนุษย์ตลอดเวลา
PROTOOL ผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือวัดคุณภาพสูง มีให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายประเภท ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ สามารถสั่งออนไลน์กับ PROTOOL ได้เลยที่
Line OA @protoolgauge , 02-123-3822 และ 085-660-5531 เราพร้อมจัดส่งทั่วประเทศไทย
ติดตาม Protool เพิ่มเติมได้ที่ :