หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือวัดขนาดและความลึกของรูเจาะที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ง่ายต่อการตรวจสอบ GO/NOGO เครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด แล้วเครื่องมือวัดชนิดนี้มีกี่ประเภท? มีวิธีใช้งานอย่างไร? PROTOOL จะพาไปหาคำตอบ ตามไปดูกันเลย!
เครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) คืออะไร?
ปลั๊กเกจ (Plug Gauge) หรือที่เรียกว่า “เกจเช็กรูใน” คือ เครื่องมือทรงกระบอก มีด้ามจับ และประกอบด้วยเกจวัดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่แม่นยำ สามารถใช้งานได้ 2 ฝั่ง ทั้งฝั่ง GO และฝั่ง NOGO โดยจะมีขนาดที่ใช้งานอยู่ที่ 1.5 มม. ถึง 315 มม. หรือขนาดอื่น ๆ
เครื่องมือวัดปลั๊กเกจที่นิยมใช้งานนั้น จะทำมาจาก 3 วัสดุหลัก ๆ ได้แก่
- ปลั๊กเกจที่พินทำจากเหล็ก (Steel) : จะมีคุณสมบัติไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อน และมีความแข็งแรงสูง ผ่านกระบวนการอบชุบด้วยความร้อนหลายขั้นตอน ความแข็งของพินเกจเหล็กสูงกว่า HV800 – 1200 และขนาดจะเสถียรมากหลังการบำบัดด้วยความเย็นจัดที่อุณหภูมิ -198°C โดยจะมีความแข็งจะอยู่ที่ HRC58-62
- ปลั๊กเกจที่พินทำจากเซรามิก (Ceramic) : จะมีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม ไม่เป็นแม่เหล็ก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทนทานต่อสารเคมี จัดเก็บได้ง่าย ค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวจากความร้อนเกือบเท่ากับเหล็ก ไม่จำกัดอุณหภูมิและใช้งานได้ยาวนาน
- ปลั๊กเกจที่พินทำจากคาร์ไบด์ (Carbide) : จะมีคุณสมบัติความแข็งสูง ทนต่ออุณหภูมิสูง ทนต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม อายุการใช้งานยาวนาน ค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวทางความร้อนที่ไม่มีนัยสำคัญ เพื่อให้การบิดเบือนความร้อนน้อยที่สุด
โดยปลั๊กเกจจะเหมาะสำหรับงานที่เป็น Mass Production สามารถตรวจสอบขนาดรูเจาะที่อยู่ในช่วงกำหนดไว้ (GO/NOGO) ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถใช้ตรวจสอบความลึกของรูเจาะได้อีกด้วย
ปลั๊กเกจ (Plug Gauge) มีกี่ประเภท?
ปลั๊กเกจ (Plug Gauge) มีอยู่ 4 ประเภท แต่ละประเภทจะเหมาะสำหรับใช้ตรวจสอบรูที่แตกต่างกันดังนี้
1. Reversible Plug Gauge
หรือที่เรียกว่า “ปลั๊กเกจทรงกระบอก” หรือ “เกจปลั๊กธรรมดาแบบพลิกกลับได้” ใช้สำหรับตรวจสอบรูที่เจาะ โดยคุณลักษณะของเกจประเภทนี้ เมื่อปลายด้านหนึ่งชำรุด จะสามารถกลับส่วนประกอบอีกด้านมาใช้งานได้
2. Taper-lock Plug Gauge
หรือที่เรียกว่า “เกจวัด Taper-lock” เป็นปลั๊กเกจที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบรูภายใน ฝั่ง GO ยาวกว่าฝั่ง NO GO โดยเกจวัด Taper-lock แบบก้านเรียวได้รับการออกแบบมาเพื่อล็อคเข้ากับรูเรียวในด้ามจับปลั๊กล็อค
3. Tri-lock Plug Gauge
เป็นปลั๊กเกจไตรล็อคในคลาส XX ถึง ZZ gage maker พิกัดความเผื่อสำหรับการตรวจสอบรูที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ และเช่นเดียวกับเกจแบบพลิกกลับได้ เมื่อด้านใดด้านหนึ่งชำรุด เกจก็สามารถหมุนกลับได้ ซึ่งการออกแบบนี้จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของเกจได้มาก
4. Progressive Plug Gauge
เป็นปลั๊กเกจทรงกระบอกที่เป็นตัวเลือกดีที่สุดสำหรับการตรวจสอบชิ้นส่วนอย่าง โดยที่ฝั่ง GO และ NO GO จะอยู่ในส่วนประกอบเกจวัดตัวเดียวกันและด้านเดียวกัน ดังนั้นสามารถตรวจสอบชิ้นส่วนได้ด้วยการใช้งานง่ายเพียงครั้งเดียว
ปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
ปลั๊กเกจ เป็นเครื่องวัดที่ใช้สำหรับตรวจสอบขนาดและความลึกของรูเจาะโดยเฉพาะ
วิธีการใช้งานเครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge)
เครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) มีวิธีการใช้งาน ดังนี้
- เลือกขนาดของปลั๊กเกจที่เหมาะสมสำหรับรูเจาะที่ต้องการวัด จากนั้นนำปลั๊กเกจสวมลงในแนวตั้งขนาดกับพื้นลงในรูเจาะที่ต้องการวัด
- ปลั๊กเกจจะมี 2 ฝั่ง คือ ฝั่ง GO และฝั่ง NOGO โดยวิธีการวัด จะนำฝั่ง GO สวมวัดลงในรูเจาะแล้วหมุนง่ายตลอดจนสุดรูเจาะ แสดงว่ารูเจาะได้ตามขนาดที่ต้องการ แต่หากไม่สามารถสวมวัดได้ แสดงว่ารูเจาะเล็กกว่าขนาดที่ต้องการ
- หลังจากนั้น นำปลั๊กเกจฝั่ง NOGO สวมวัดลงในรูเจาะ ถ้าไม่สามารถวัดได้ แสดงว่ารูเจาะอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ หากสวมวัดลงในรูเจาะได้แสดงว่ารูเจาะมีขนาดใหญ่กว่าเกณฑ์การยอมรับ
เครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) กับ พินเกจ (Pin Gauge) ต่างกันอย่างไร?
เครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) เป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจขนาดรูเจาะว่า อยู่ในช่วงที่กำหนดไว้ (GO/NOGO) หรือไม่ และตรวจสอบความลึกของรูเจาะได้ มีข้อดีตรงที่ใช้งานสะดวก รวดเร็ว แต่จะมีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถวัดขนาดรูเจาะที่มีขนาดเล็กได้ มีขนาดใหญ่ และมีราคาแพงกว่าพินเกจ
ในขณะที่เครื่องมือวัดพินเกจ (Pin Gauge) เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดขนาดของรูเจาะ ตรวจสอบความกลม ความเรียบ และเปรียบเทียบขนาดของรูเจาะกับชิ้นงานอื่น ๆ มีข้อดีตรงที่มีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ราคาไม่แพง สามารถใช้วัดขนาดรูเจาะที่มีขนาดเล็กได้ และมีความแม่นยำสูง แต่มีข้อจำกัดตรงที่ใช้เวลานานในการวัดรูเจาะหลายรู และไม่สามารถวัดความลึกของรูเจาะได้
ข้อควรระวังในการใช้งานเครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge)
การใช้งานเครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) มีข้อควรระวังนี้ดังนี้
- ควรเลือกปลั๊กเกจที่มีขนาดใกล้เคียงกับรูเจาะมากที่สุด เพื่อการวัดที่แม่นยำ
- ควรใช้งานปลั๊กเกจอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการตกหล่น หรือกระแทก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย
- ควรเก็บเครื่องมือวัดปลั๊กเกจไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม แห้งและสะอาด หมั่นทาน้ำมันกันสนิม เพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น
เครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ราคาเท่าไหร่?
ราคาเครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) จะแตกต่างกันไปตามชนิดของปลั๊กเกจ วัสดุที่ใช้ และขนาด โดยทั่วไปจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 30,000 บาท หากอยากทราบราคาที่แน่นอน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ของ PROTOOL ได้เลย!
PROTOOL พร้อมจัดจำหน่ายเครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) ส่งตรงถึงบ้านคุณ
PROTOOL แหล่งจัดจำหน่ายเครื่องมือวัดปลั๊กเกจ (Plug Gauge) คุณภาพสูง มีให้เลือกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ปลั๊กเกจทรงกระบอก, เกจวัด Taper-lock, Tri-lock Plug Gauge และ Progressive Plug Gauge มีครบทั้งปลั๊กเกจเหล็ก ปลั๊กเกจเซรามิก ปลั๊กเกจคาร์ไบด์ หลากหลายขนาด หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ สำหรับท่านใดที่กำลังหาซื้อเครื่องมือวัดปลั๊กเกจอยู่ แต่ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนดี สามารถสั่งออนไลน์กับ PROTOOL ได้เลยที่ Line OA PROTOOL GAUGE , 02-123-3822 และ 085-660-5531 เราพร้อมจัดส่งทั่วประเทศไทย ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!